ZhuXian จูเซียน - นิยาย ZhuXian จูเซียน : Dek-D.com - Writer
×

    ZhuXian จูเซียน

    หลังสงครามผนึกปีศาจเซียนสวรรค์ ผนึกจุติซึ่งสะกดร่างมังกรฟ้าหายไป นักพรตหญิงผู้ถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมชะตาแห่งอาเพศภัย จะสามารถนำความสงบสุขคืนกลับมาสู่แผ่นดินยุทธภพได้หรือไม่? ติดตามได้ในจูเซียนแห่งนี้

    ผู้เข้าชมรวม

    24,581

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    119

    ผู้เข้าชมรวม


    24.58K

    ความคิดเห็น


    64

    คนติดตาม


    112
    จำนวนตอน :  24 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  2 มี.ค. 57 / 21:36 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    เนื้อเรื่องย่อของจูเซียน ZhuXian

     

                นับแต่โบราณกาล มนุษย์ได้ผ่านเหตุการณ์หลากหลายทั้งสามัญและสุดพิสดารมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ฝน, ฟ้า, ลม ภัยธรรมชาติทั้งที่เกิดจากธรรมชาติเองหรือแม้แต่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ เมื่อเกิดเหตุการณ์แต่ละครั้ง สิ่งที่ตามมาคือความสูญเสียใหญ่หลวง
     

    น้ำตาและเสียงร้องไห้กระจายไปทั่วดินแดน เรื่องราวเช่นนี้ย่อมเกินความสามารถของมนุษย์ที่จะยับยั้งไว้ได้ จึงเป็นที่มาของความเชื่อที่ว่า มี เทพสถิตอยู่บนสรวงสวรรค์ และ มารอยู่ลึกลงไปในแดนนรกโลกันตร์

     

    ความเชื่อนี้แผ่ขยายไปอย่างรวดเร็วและไม่เคยจางหายไปอีกเลย ผู้คนเริ่มปั้นรูปออกมาจากจินตาการและสวดอ้อนวอนต่อสิ่งที่ปั้นขึ้นมานี้  พวกเขาทำกระทั่งถึงขอพร, บ่นปัญหาชีวิต หรือเล่าเรื่องทุกอย่างให้ตัวแทนนี้อย่างสนิทใจ

     

           เป็นเรื่องปกติที่มนุษย์ทุกคนต้องมีวันที่ลาโลกไป น่าเศร้าที่พวกเขากลัวความตายและต้องการมีชีวิตต่อไป มนุษย์กลัวความตายเพราะพวกเขาไม่อยากตกนรกทนทุกข์ทรมาน  เมื่อมีข่าวลือเรื่องชีวิตอมตะจึงมีคนเชื่อเรื่องนี้อย่างไร้ข้อโต้แย้ง

     

    เมื่อเทียบกับเผ่าพันธุ์อื่นแล้ว มนุษย์นับว่ามีสรีระร่างกายที่บอบบางแต่มีระดับปัญญาที่สูงกว่า แรงผลักดันในการไขว่คว้าความเป็นอมตะ ไม่เคยยิ่งหย่อนลดลงไปแม้แต่น้อย พวกเขามุ่งมั่นและเต็มใจที่จะสละเวลาเพื่อศึกษาเรื่องราวความเป็นอมตะนี้

     

    เวลาเนิ่นนานผ่านไป ยังไม่มีใครเข้าใจความหมายที่แท้จริงของชีวิตอมตะ แต่มีผู้สันโดษบางท่านได้เรียนรู้พลังธรรมชาติ พวกเขาเป็นมนุษย์ธรรมดาเช่นคนทั่วไป  แต่สามารถควบคุมพลังอันรุนแรงได้ ด้วยการใช้เครื่องเวทย์ พวกเขาปล่อยพลังอันสั่นฟ้าสะเทือนดินและยังมีความสามารถในการเรียกลมเรียกฝน

     

     ในบรรดาผู้สันโดษด้วยกัน มีผู้ที่ฝีมือเหนือกว่าท่านอื่นลือกันว่ามีอายุกว่าพันปีแล้ว ผู้คนจึงคิดกันว่าการฝึกวรยุทธ์เป็นหนทางสู่ชีวิตนิรันดร

     

         แดนเฉินโจวนั้นกว้างใหญ่แต่มีเพียงแถบกลางที่อุดมสมบูรณ์และผู้คนอาศัยอยู่ หนาแน่น ทางฝั่งตะวันตกทั้งแถบเป็นทะเลทราย มีภูเขาสูงชัน เต็มไปด้วยสัตว์ร้าย สัตว์มีพิษ คนที่อาศัยอยู่แถบนี้เป็นเผ่าป่าเถื่อนนิยมดื่มเลือด คนทั่วไปไม่มีใครอยากมาที่นี่

     

    มีตำนานว่า มีคนยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่ยังมีชีวิตอยู่นับว่ามีชีวิตมายาวนานนับล้านปี ว่ากันว่าซ่อนตัวอยู่ตามภูเขา.....แต่ยังไม่มีใครหาเจอ

     

    จนถึงตอนนี้มีผู้วิเศษปรากฏกายขึ้นมากมาย ในแดนเฉินโจวมีผู้วิเศษในตำนานมากมายที่ฝึกฝนวรยุทธหลากหลายแขนง หนทางสู่ชีวิตอมตะยังไม่มีใครค้นพบ  แต่ ได้เกิดสำนักวิชาต่างๆขึ้นมา ความแตกต่างของแต่ละสำนักก่อให้เกิดความขัดแย้งแบ่งฝ่ายเป็นธรรมมะอธรรม นำไปสู่การต่อสู้ก่อสงครามแย่งชิงดินแดน

     

     จางเสี่ยวฟานเคยเป็นศิษย์สำนักฝ่ายธรรมะ ต่อมาได้ตกหลุมรักบุตรีแห่งผู้นำสำนักเจ้าวิญญาณนามว่า ปี้เหยา เนื่อง จากสำนักนี้เป็นฝ่ายอธรรม  ทำให้ผู้คนฝ่ายธรรมมะเริ่มชิงชังจางเสี่ยวฝาน ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อจางเสี่ยวฝานถูกหมายปองชีวิต แม่นางปี้เหยายอมใช้ตัวเองรับกระบี่เทพจูเซียนของเจ้าสำนักเมฆเขียวแทน ทำให้นางได้รับบาดเจ็บหนัก จางเสี่ยวฝานจึงออกจากสำนักเมฆเขียวไปเข้าสำนักเจ้าวิญญาณ แล้วเปลี่ยนไปใช้ชื่อ กุ่ยลี่   แต่ที่สำนักเมฆเขียวยังมีคนหนึ่งที่ยังแอบมีใจให้จางเสี่ยวฝานอยู่ นั่นคือจอมนางหิมะหยก

     

                 ในขณะที่สำนักฝ่ายธรรมะและอธรรมทำสงครามกัน อสูรร้ายได้ปรากฏกายที่ภูเขาในแดนใต้และรุกรานเข้าแดนกลาง ผู้คนล้มตายมากมาย  บางคนถูกสังหารโหดไม่เหลือแม้แต่ซากกระดูก เหตุการณ์เริ่มเข้ากับคำทำนายที่ว่า "ฟ้าดินไร้ปราณี ทั่วทั้งปฐพีล้วนไร้ค่า"

     

         หนทางเดียวที่จะปกป้องผืนโลกไว้ได้คือทั้งฝ่ายธรรมะและอธรรมจำต้องร่วมมือกัน!

    จางเสี่ยวฝานจะหาวิธีช่วยเหลือปี้เหยาจากสิ่งชั่วร้ายได้หรือไม่?

    ฝ่ายธรรมะและอธรรมจะร่วมมือกันต่อกรเผ่าอสูรได้จริงหรือ?

     

              กุญแจแห่งโชคชะตาอยู่ในมือของท่านแล้ว.....

     

     

    ที่มา  http://www.zx.in.th/zxv2/home/ndetail/510

     

     

    คลิป อินโทร นิยาย ZhuXian โดย Mr.Jessy JR.Team

     

     



     

    โลกของจูเซียน ผู้คนสามารถเข้าร่วมกับสำนักหรือพรรคต่างๆ

    เพื่อกำหนดทิศทางชีวิตของตนว่า เลือกที่จะฝักใฝ่ฝ่าย ธรรมะ หรือ อธรรม

     

    สำนักเมฆเขียว

     

    หนึ่งในสามสำนักฝ่ายธรรมะแห่งยุทธภพ  สำนักเมฆเขียวมีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 2,000 ปีเป็นสำนักที่โดดเด่นที่สุดท่ามกล่างฝ่ายธรรมมะและอธรรม  ในตอนนั้นปรมาจารย์ชิงเย้แห่งสำนักเมฆเขียวได้ค้นพบกระบี่วิเศษโบราณ'จูเซียน' ที่อยู่ใน 'ถ้ำจันทรา'  กระบี่นี้ทรงอำนาจมากทำให้เขาเป็นใหญ่ในใต้หล้า เป็นที่นับถือของลูกศิษย์รุ่นหลังและมุ่งมั่นขัดเกลาวิชากระบี่เพิ่มพูนความเชี่ยวชาญในศาสตร์แห่งกระบี่  สำนักนี้จึงได้อีกฉายาหนึ่งว่าสำนักกระบี่เมฆเขียวนอกจากนี้ยังมีวงแหวนกระบี่เมฆเขียวอันมีพลังสุดประมาณที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากปรมาจารย์อีกด้วย

    สำนักกระบี่เมฆเขียวประยุกต์ใช้หลักการศาสนาเต๋า, วิชาไทเก๊ก  มีท่าร่างอันสวยงามแฝงไว้ด้วยพลังมหัศจรรย์ด้วยการดูดซับพลังดินฟ้าเป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งแวดล้อม ทำให้สามารถใช้ร่างกายควบธรรมชาติได้ และยังมีสุดยอดวิชา 'กระบี่เทพขี่สายฟ้า' ที่ทั่วทั้งยุทธภพไม่มีใครไม่รู้จัก  กล่าวได้ว่าสามสิ่งอันเป็นเอกลักษณ์ของสำนักเมฆเขียวคือวิชาไทเก๊ก, กระบี่วิเศษจูเซียน และ วิชากระบี่เทพขี่สายฟ้า

     

     สำนักอารามผดุงฟ้า

     

    อารามผดุงฟ้า, สำนักเมฆเขียว และ หุบเขาหอมหวน เป็นสามสำนักใหญ่แห่งฝ่ายธรรมะ อารามผดุงฟ้าใช้หลักคำสอนของพุทธศาสนา "คัมภีร์สันสกฤต" เพื่อฝึกฝนตน คำสอนเหล่านี้จะช่วยให้ทุกคนได้ข้ามฝั่งหลุดพ้นจากทะเลวัฏสงสาร

    ศิษย์อารามผดุงฟ้า ใส่ใจต่อการฝึกฝนของตนเอง นำหลักการพุทธศาสนามาใช้เสริมสุขภาพดั่งคำกล่าวที่ว่า  “ผู้มีธรรมปิติ ใจเป็นสุข กายย่อมเป็นสุข”  กระทั่งยามที่ต้องลาโลกก็จากไปอย่างสงบ

    วิชาของอารามผดุงฟ้าเน้นด้านการป้องกัน พลังของคัมภีร์สามารถปกป้องผู้คนจากการถูกทำร้าย พลังแห่งความเมตตาสามารถช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ฟื้นฟูเลือดลม เมื่อปีศาจร้ายออกมาทำลายมนุษย์ ชาวพุทธจะใช้เวทมนต์ของศาสนาพุทธไปกำราบพวกมัน

     

     สำนักสราญรมย์

     

    ข้าทาสกระดิ่งทองแห่งพรรคมาร มีวรยุทธสุดล้ำลึกและแตกฉานเรื่องของหนังสือสวรรค์ เมื่อ 300 ปีก่อนได้ก่อตั้งสาขาใหม่ของพรรคมารชื่อว่า "สำนักสราญรมย์"  ปัจจุบันเป็นสำนักที่รุ่งเรืองพอๆกับสำนักเจ้าวิญญาณอันเป็นอีกสาขาหนึ่งของพรรคมาร

    กระบวนท่าของสำนักนี้อาศัยการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว ร้อยแปรผันเปลี่ยน ยากที่จะตามได้ทัน สร้างความว้าวุ่นแก่จิตใจของคู่ต่อสู้ บางครั้งศัตรูถูกปลิดชีพโดยที่ไม่ทันได้รู้ว่าตัวเองจากโลกไปแล้ว อาวุธลักษณะประหลาดรวมทั้งการเคลื่อนไหวที่งดงามดั่งการเต้นรำทำให้ศัตรูไม่รู้ว่าตัวเองตกอยู่ในอันตราย


    สำนักเจ้าวิญญาณ

     

    สำนักเจ้าวิญญาณเป็นสาขาหนึ่งของสำนักศักดิ์สิทธิ์ ประมาณ 300 ปีที่แล้ว เจ้าสำนักรุ่นก่อนได้รับหนังสือสวรรค์เล่มที่สอง ทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังและสามารถขยายสำนักให้ใหญ่โตออกไปกว่าเดิม

    เวทมนต์สำนักนี้ส่วนใหญ่มาจากหนังสือสวรรค์ที่หลงเหลืออยู่  เพื่อบรรลุเป้าหมายแล้วพวกเขาไม่สนวิธีการ ทำให้ชาวยุทธเรียกขานสำนักนี้ว่า สำนักมาร

    วิชาของสำนักนี้มีพลังลึกล้ำมากยากที่จะมีใครต่อกรได้  แต่ก็มักจะนำตัวผู้ใช้ให้ตกอยู่ในสภาวะเสี่ยงโดยไม่นึกผลที่ตามมา สาขาใหญ่ของสำนักตั้งอยู่ที่แดนดงดิบ นอกจากนี้พวกเขาได้เรียนรู้วิชาอสูรจากแดนตะวันตก เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองอีกด้วย  เมื่อฝึกฝนถึงขั้นสูงสุดแล้วสามารถอัญเชิญพลังเทพมารมารวมร่างกับตัวเองเพื่อเพิ่มพลังการต่อสู้ได้เป็นอย่างมาก



    สำนักมารสยบฟ้า

     

    สำนักมารสยบฟ้ามีประวัติความเป็นมายาวนาน พวกเขาชำนาญวิชาเวทมนต์ปีศาจโบราณ, เวทมนต์โหดร้ายจากต่างถิ่น, ยันต์วิญญาณนรก  สำนักนี้ก่อตั้งโดยบุคคลประหลาดผู้หนึ่งโดยประยุกต์ใช้วิชาคุณไสยของเผ่าเหมียวหมาน และ วิชาหยินหยางลึกลับ ที่สามารถสลับกายย้ายวิญญาณได้

    การดำเนินการใดๆของสำนักนี้เป็นความลับ น้อยคนที่จะรับรู้ แต่ก็มีบางส่วนที่เปิดเผยฐานะของตนเอง เช่น เจ้ามาร และ เสี่ยวหวน ที่รู้วิชาของสำนักนี้อยู่บ้าง

    วิชาของสำนักนี้ล้วนมีความโหดร้าย เช่น การเรียกพายุทรายไปทำลายเป้าหมาย, สลับกายย้ายวิญญาณเพื่อสังหารศัตรู หรือใช้คาถาพิษร้ายดูดเลือดและลมหายใจของศัตรู  คนของสำนักมารสยบฟ้าสามารถใช้ หรือแม้กระทั่ง สลับสับเปลี่ยนใช้วิชาอันร้ายกาจทั้งสามนี้ได้อย่างคล่องแคล่ว ยากที่คู่ต่อสู้จะเปลี่ยนกระบวนท่ารับมือได้ทัน ถือได้ว่าเป็นดาวดวงใหม่ที่เจิดจรัสไปทุกหนแห่ง

     
     

     (เครดิต ภาพประกอบจากเว็บออนไลน์สเตชั่นและอินเตอร์เน็ต)

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น